คอนเซ็ปต์: รูปแบบการใช้ชีวิตที่ไม่หยุด คอนโดในสไตล์ Beach Club
โดย บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด(ภายในเครือบมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์)
ยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส 2 ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 72 ย่านบางนา สามารถเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีแบริ่ง ประมาณ 600 เมตร และใกล้ทางพิเศษบูรพาวิถี ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และทางพิเศษกาญจนาภิเษก
เจ้าของโครงการ | บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด |
---|---|
เนื้อที่โครงการ | 10-0-33.9 ไร่ |
รูปแบบอาคาร | 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร |
จำนวนหน่วย | รวม 995 หน่วย (แบ่งเป็นห้องชุดพักอาศัย 992 หน่วย และเพื่อการค้า 3 หน่วย) |
สิ่งอำนวยความสะดวก | สระว่ายน้ำ
ฟิตเนส ห้องซักรีด ห้องนั่งเล่นและพื้นที่พักผ่อนดาดฟ้า พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง สวนหย่อม |
ที่จอดรถ | 303 คัน (ประมาณ 33% ไม่รวมซ้อนคัน) |
พิกัด | 13.664922, 100.603742 |
เบอร์โทรศัพท์ | 02-063-7272 |
เว็บไซต์ | ยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส 2 |
อยู่ในซอยสุขุมวิท 72 (สุขุมวิทฝั่งเลขคู่) ซึ่งเป็นซอยตัน แต่ในอนาคตโครงการแล้วเสร็จทั้ง 2 เฟส ลูกบ้านโครงการสามารถเดินทางเชื่อมต่อซอยสุขุมวิท 70 ผ่านทางที่ดินในโครงการได้
การเดินทางเข้าออกสามารถเดินทางทั้งทางซอยสุขุมวิท 72 และซอยสุขุมวิท 70 ได้ (เปิดให้บริการเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ)
ที่ตั้งโครงการห่างจากปากซอยสุขุมวิทประมาณ 350 เมตร สามารถเดินทางเชื่อมต่อรถไฟฟ้า
BTS สถานีแบริ่งได้ การเดินทางโดยเท้าใช้ระยะเวลาประมาณ 7-8 นาที (ประมาณ 600 เมตร)
.
ในส่วนโครงข่ายรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและอยู่ในแผนก็เป็นที่น่าจับตามอง ซึ่งโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างคือ
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง)
ก็จะมีจุดเชื่อมต่อกับสถานี BTS สำโรง ซึ่งจากสถานีแบริ่ง เพียง 1 สถานี
โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองคาดการณ์ว่าจะมีการก่อสร้างแล้วเสร็จปลายปี 2564
และโครงการที่อยู่ในแผนคือ รถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา สายบางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ระหว่างการทำ EIA จะมีจุดเริ่มต้นที่สถานี “สถานีบางนา” (คนละสถานีกับ BTS บางนา) คาดการณ์ว่าสถานีจะอยู่ใกล้สี่แยกบางนาซึ่งมีสกายวอล์กเดินเชื่อมกับรถไฟฟ้า BTS ฝั่งอาคารไบเทคได้ มีระยะทางประมาณ 550 เมตร โดยภาพรวมจะทำให้ในอนาคตการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าในพื้นที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่ขับรถเอง จะพบว่าทำเลที่ตั้งโครงการใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนทางพิเศษสาย S1 หรือ ทางด่วนฉลองรัชได้ หรือสามารถเชื่อมต่อสู่ทางด่วนขั้นที่ 2 เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมือง รวมไปถึงเชื่อมต่อทางด่วนบูรพาวิถี เพื่อออกสู่ภาคตะวันออกได้อย่างสะดวก
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ จะพบว่าย่านช่วงบริเวณแบริ่ง จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบครัน
ทั้งโรงเรียน ศูนย์การค้า รวมไปถึงโรงพยาบาลในพื้นที่ โดยหากพิจารณาในรัศมี 2 กิโลเมตรรอบโครงการ
ศูนย์การค้าที่อยู่ไม่ห่างไกลจากโครงการมากนัก คือ ห้างสรรพสินค้าอิมพิเรียลสำโรง ที่เป็นศูนย์การค้าดั้งเดิมในพื้นที่ และ
The Cost Village ที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์แบบ Open air รวมไปถึงอภิมหาโปรเจคอย่าง The Bangkok Mall
บนพื้นที่ดินกว่า 100 ไร่ ที่เริ่มมีการก่อสร้างในปีนี้ (2562) และมีแผนจะเปิดตัวในปี 2566
.
ด้านสถานศึกษาที่อยู่ในละแวก คือ โรงเรียนนานาชาติ St. Andrews ระยะการเดินเท้าเพียง 500 เมตร
ซึ่งถึงแม้ว่าโรงเรียนในพื้นที่ จะนิยมพัฒนาบริเวณฝั่งบางนา รวมไปถึงสุขุมวิท (ฝั่งเลขคี่) แต่อย่างไรก็ตามก็ถือได้ว่าอยู่ในทำเลเดียวกัน
ไม่ยากลำบากในการเดินทางมากนัก
.
นอกจากแหล่งช๊อปปิ้งและสถานศึกษา ยังมีศูนย์นิทรรศการและการประชุมในพื้นที่นี้ คือ ไบเทค บางนา ในระยะทางเดินจากโครงการประมาณ
1.7 กิโลเมตร รวมไปถึงสถานพยาบาลต่างๆ โดยรอบ สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ทั้งหมดนี้ ทำให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยได้อย่างดี
ด้วยเนื้อที่ส่วนกลางกว่า 1 ไร่ภายในโครงการคอนโดแบบ Low rise 8
ชั้น จำนวน 5 อาคาร เฉลี่ยหน่วยขายประมาณ 200 หน่วยต่ออาคาร ช่วยรองรับการพักผ่อนของผู้พักอาศัยในโครงการได้อย่างดี
โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส 2 นี้ จะอยู่พื้นที่บริเวณตรงกลาง ชั้น 1 ทั้งหมด
ซึ่งล้อมรอบด้วยกลุ่มอาคารพักอาศัยภายในโครงการ (บริเวณอาคาร C, D, E)
.
สิ่งอำนวยความสะดวก ได้แก่ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนหย่อม รวมไปถึงพื้นที่คลับเฮ้าส์ที่มีการออกแบบชั้น 2
เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ (The Cliff top) พื้นที่ให้ลูกบ้านได้รับการพักผ่อนตามอัธยาศัย ด้วย
การออกแบบสไตล์รีสอร์ทริมทะเล
เน้นโทนสีขาว ผ่อนคลาย รวมไปถึงพื้นที่บริเวณอาคาร A ซึ่งเป็นอาคารที่อยู่ลำดับแรกเมื่อเข้ามาในโครงการจะมี
พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้งอยู่ด้วย
.
ด้านที่จอดรถสามารถจอดรถได้ที่ชั้น 1 บริเวณโดยรอบโครงการ และใต้อาคาร ซึ่งที่จอดรถ 303 คัน คิดเป็นประมาณ 33%
(ไม่รวมจอดซ้อนคัน) ลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว รวม 5 อาคาร จำนวนลิฟต์ทั้งหมด 10 ตัว
.
นอกจากนั้นทางโครงการยังมี Shutter bus ให้บริการถึงรถไฟฟ้าสถานีบางนา
ซึ่งสามารถเดินเท้าได้ใช้ระยะทาง 600 เมตร หรือใช้เวลาประมาณ 7-8 นาที โดยหากเป็นการเดินไปปากซอยสุขุมวิท
จะใช้ระยะทางประมาณ 350 เมตร
รูปแบบห้องของโครงการมีรูปแบบทั้งหมด 9 แบบ แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ สตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 1 ห้องนอน พลัส และแบบดูเพล็กซ์ (1 ห้องนอน) โดยมีรายละเอียดดังนี้
แบบห้องขายดีของทางโครงการมีขนาดห้องตั้งแต่ 22 ตารางเมตร
ถึงห้องขนาด 36 ตารางเมตร ฟังก์ชั่นห้องในแต่ละแบบสตูดิโอค่อนข้างใกล้เคียงกันแตกต่างกันตรงห้องแบบ B
(ขนาด 27 ตารางเมตร) จะเพิ่มพื้นที่นั่งเล่น หรืออาจปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่โต๊ะทำงาน ที่จัดวางโต๊ะให้ติดกระจกได้
(ชมวิว-รับแสง ขณะนั่งทำงาน)
.
และห้องแบบ BG (ขนาด 36 ตารางเมตร) เพิ่มพื้นที่ชานนอกห้อง
เนื่องจากห้องแบบ BG อยู่ชั้น 1 ทำให้การเชื่อมต่อภายนอกสู่ภายในห้องได้ 2 ทาง คือผ่านทางเดินส่วนกลางในอาคาร และออกนอกอาคารจากพื้นที่ชานนอกห้องได้
รูปแบบฟังก์ชั่นสามารถปรับเป็นที่นั่งด้านนอกอาคารได้ (คล้ายระเบียง)
ฟังก์ชั่นห้องแบบสตูดิโอเมื่อเปิดประตูมาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่เตียงนอนที่ติดฝั่งหน้าต่างทำให้สามารถชมทิวทัศน์ภายนอกได้
ถัดมาจะเป็นห้องน้ำ และครัวปิด (Pantry) ซึ่งพื้นที่เชื่อมต่อกับครัวปิดจะเป็นระเบียง ซึ่งหากเป็นห้องรูปแบบ BG จะเป็นชานหน้าห้องแทน
.
ห้องรูปแบบนี้เหมาะกับการอยู่ 1 -2 คน แบบที่ต้องการเนื้อที่ใช้สอยมากกว่าการกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน รูปแบบห้องค่อนข้างโปร่ง เนื่องจากไม่มีการกั้นห้อง
แบบห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type C ของทางโครงการ ออกแบบมารองรับกับผู้ที่ชอบการออกแบบพื้นที่ให้เป็นสัดเป็นส่วนมากกว่าห้องแบบสตูดิโอ
ห้องรูปแบบนี้จะ เป็นห้องมุมที่มีเพียงห้องเดียวต่อ 1 ชั้น หรือเทียบได้ว่าทั้งอาคารจะมีห้องรูปแบบนี้เพียง 7 ห้องเท่านั้น
.
ฟังก์ชั่นห้องรูปแบบนี้เมื่อเปิดประตูมาในห้อง จะเป็นมุมครัวเปิดและห้องนั่งเล่น
ซึ่งถัดจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นระเบียงชมทิวทัศน์ภายนอกอาคาร โดยหากเดินมาทางมุมครัวจะเป็นห้องน้ำที่เข้าได้ทางเดียว (ไม่สามารถเข้าจากภายในห้องนอนได้)
ถัดมาจะเป็นส่วนของห้องนอนที่มีหน้าต่างได้จากทั้ง 2 ฝั่งผนังห้อง เนื่องจากห้องรูปแบบนี้เป็นห้องมุมอาคาร
.
ห้องแบบ 1 ห้องนอนของโครงการ การจัดวางสร้างความเป็นส่วนตัวในกรณีที่มีแขกหรือเพื่อนมาที่ห้อง ก็ไม่ต้องไปรบกวนส่วนของห้องนอนได้เลย
ขนาดห้อง 40.5-50 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ (พสัส) ซึ่งสามารถทำเป็นห้องทำงาน
หรือห้องนอนเล็กได้ และมี 1 ห้องน้ำ โดยภาพรวมจะพบว่ามี Layout รูปแบบเดียว แตกต่างกันที่ตรง
ห้องแบบ DG ขนาด 50 ตารางเมตร จะปรับเปลี่ยนพื้นที่ระเบียงเป็นพื้นที่ชานหน้าห้อง จัดทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นได้
จากการที่ห้องแบบ DG จะอยู่ชั้น 1 สามารถเข้าทางฝั่งชานหน้าห้องหรือทางประตูของห้องรูปแบบ D แบบปกติทั่วไปได้
.
เมื่อมาดูฟังก์ชั่นภายในห้อง เมื่อเข้าประตูจะเป็นห้องน้ำก่อน ถัดมาจะเป็นครัวเปิด (Pantry) ที่เชื่อมต่อกับระเบียง
(หากเป็นห้องแบบ DG จะเป็นชานหน้าห้องแทน) และห้องนั่งเล่น ในส่วนห้องนอน และห้องอเนกประสงค์ (พลัส)
จะจัดวางให้อยู่ฝั่งเดียวกัน แยกประตูเข้าในแต่ละห้อง โดยห้องแบบ 1 ห้องนอน และห้องอเนกประสงค์ (พลัส) นี้
จะเป็นห้องที่มีหน้าต่างทั้งคู่ (โดยห้อง 1 ห้องนอน จะมีจำนวนหน้าต่างที่มากกว่า) ทั้งนี้เนื่องจากห้องรูปแบบนี้เป็นห้องมุมอาคาร
ทำให้สามารถรับวิวทิวทัศน์ภายนอกอาคารได้ทั้ง 2 ฝั่งได้
ห้องแบบนี้อยู่ที่ตึก C และ ตึก E โดยในตึก C จะเป็นห้องดูเพล็กซ์รูปแบบ Garden Access
และตึก E จะเป็นห้องแบบ Pool Access แบบห้องรูปแบบนี้จะมีอยู่ที่เฉพาะอาคาร C และ
อาคาร E โดยในอาคาร C จะเป็นห้องดูเพล็กซ์รูปแบบ Garden Access และอาคาร E
จะเป็นห้องแบบ Pool Access แบบห้องดูเพล็กซ์ของทางโครงการจะมีฟังก์ชั่นการใช้งานรูปแบบเดียว
คือ แบบ 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยแบบเต็มชั้น ไม่มีพื้นที่เปิด (void)
หรือรูปแบบที่ทำช่องเปิดจากชั้นล่างไปชั้นบน แบบ double volume เพดานสูง
.
แยกพื้นล่างและชั้นบนอย่างชัดเจน โดย Layout ทั้งห้องแบบ Garden Access และ Pool Access
จะเป็นรูปแบบเดียวกัน แตกต่างกันตรงการเดินทางเข้า-ออกห้องทางฝั่งสวนหรือสระว่ายน้ำเท่านั้น
ซึ่งหากเข้าประตูรั้วมาทางชั้นล่าง ก่อนเข้าห้องจะเป็นพื้นที่นั่งพัก รวมไปถึงตู้เก็บของนอกห้อง
เมื่อเปิดประตูห้องชั้นล่างมาจะพบกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดมาจะเป็นห้องน้ำ และมุมครัวเปิด (Pantry)
ส่วนการขึ้นชั้นบนจะใช้การเดินขึ้นบันได ซึ่งออกแบบมาให้ไม่ต้องไปรบกวนกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น
ซึ่งเมื่อก่อนเข้าห้องนอนชั้นบน ก็จะมีประตูกั้นอีกขั้นหนึ่ง สร้างความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวได้อย่างดี
เมื่อขึ้นมาอยู่ชั้นบนก็จะเจอห้องน้ำ ถัดมาเป็นห้องนอน และระเบียงตามลำดับ
จุดเด่นห้องแบบดูเพล็กซ์นี้สามารถเข้า-ออกจากทางเดินส่วนกลางในอาคารได้ทั้งชั้นล่างและชั้นบน ซึ่งห้องรูปแบบนี้ไม่มีห้องตัวอย่าง แต่สามารถดูห้องจริงได้ในโครงการเฟส 1 ได้
จากการอธิบายรูปแบบ และฟังก์ชั่นของห้องทั้ง 4 ประเภท หากใครยังมอง Layout ในแต่ละแบบห้องของโครงการยูนิโอ สุขุมวิท 72 ยังไม่เข้าใจ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Unio AR เพื่อใช้เครื่องมือ Augmented reality (AR) หรือสภาพแวดล้อมเสมือนจริงผ่านทางมือถือได้ ซึ่งรองรับทั้งระบบ IOS และ Android ได้
เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสิ้น จะมีข้อมูลโครงการยูนิโอ สุขุมวิท 72 ขึ้นมา ซึ่งในขณะนี้มีแค่เฉพาะโครงการนี้เท่านั้น (เข้าใจได้ว่าทางบริษัทฯ
อาจจะมีการนำไปพัฒนาต่อยอดใช้ในโครงการต่อไปในอนาคตได้)
ซึ่งหากท่านใด สงสัยว่าโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะตรงตามแบบจำลอง หรือภาพ 3d หรือไม่ ทางทีมงาน Tooktee จะไขข้อสงสัยดังกล่าว โดยการไปชมโครงการเฟส 1 ที่มีการก่อสร้างเสร็จและมีลูกบ้านเข้าอยู่แล้ว
ในส่วนของการออกแบบสไตล์รีสอร์ทโครงการยูนิโอ สุขุมวิท ทั้ง เฟส 1 และ เฟส 2 ทาง บริษัทผู้พัฒนาได้ทำการออกแบบมาในรูปแบบเดียวกันทำให้คาดเดาได้ไม่ยากว่าหากโครงการเฟส 2 ก่อสร้างแล้วเสร็จ ก็จะเป็นรูปแบบนี้แน่นอน
พื้นที่คลับเฮ้าส์ส่วนกลางของเฟสที่ 1 ก็มีการออกแบบเป็น 2 ชั้นโดยชั้นล่างจะเป็นห้องออกกำลังหาย และพื้นที่ชั้นบนดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ คล้ายๆ กับการออกแบบของเฟส 2
รวมไปถึงอุปกรณ์ Automated External Defibrillator (AED) หรือเครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ เพื่อช่วยเหลือผู้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นอย่างเฉียบพลัน ที่อยู่ภายในห้องออกกำลังกาย ที่มีอยู่ในเฟส 1 ก็จะพบเครื่องมือนี้อยู่ในเฟส 2 เช่นเดียวกัน
โดยทางออกด้านหลังของเฟส 1 ที่จะไปเชื่อมต่อกับทางออกของเฟส 2 เพื่อเดินทางสู่ซอยสุขุมวิท 70 ได้
มีการออกแบบให้เหมาะสมแก่การพักผ่อนของลูกบ้าน รวมไปถึงการมีพื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างใหญ่กว่า 1 ไร่ สิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ในพื้นที่ส่วนกลางมีทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องนั่งเล่น พื้นที่พักผ่อนดาดฟ้า และพื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง รวมไปถึงสวนหย่อมรอบๆ อาคาร
ถึงแม้ว่าโครงการเฟส 2 จะมีพื้นที่ส่วนกลางน้อยกว่าเฟส 1 แต่ก็ยังนับได้ว่า (พื้นที่ส่วนกลางที่ไม่รวมถนนและที่จอดรถ) ขนาดพื้นที่ส่วนกลางก็ให้มากกว่าโครงการโดยทั่วไป
สำหรับผู้ที่ซื้อโครงการยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส 1 ไม่ทัน ก็อย่าได้เสียใจไป เพราะเฟส 2 นั้น ทางโครงการได้แถมเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมให้ อีกทั้งเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ Flexible หรือปรับเปลี่ยนเพื่อลดพื้นที่ใช้สอย เพิ่มความสะดวกสบายได้ ตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์ที่ทางโครงการแถมให้ อาทิ
จะเห็นได้ว่าเฟอร์นิเจอร์ หรือบิวท์อินที่แถมมาให้มีประโยชน์ต่อการใช้งาน ประหยัดพื้นที่ รวมไปถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งห้อง หรือเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้ได้ขนาดเหมาะสมต่อการใช้งานได้อย่างดี
จากที่ได้กล่าวมา จุดเด่นที่สุดน่าจะอยู่ที่ราคาที่จับต้องได้ หากเปรียบเทียบกับโครงการคู่แข่งที่อยู่ด้านหน้าติดถนนสุขุมวิท (ระยะทางห่างกันประมาณ 250 เมตร) คือ โครงการนิชโมโน สุขุมวิท-แบริ่ง ที่ราคา 1 ห้องนอน 28 ตารางเมตร ราคาประมาณ 2.7 ล้านบาท หรือเฉลี่ยประมาณตร.ม. ละ 96,xxx บาท (ราคาเดือนมีนาคม 2562) รูปแบบคอนโด High rise 34 ชั้น
กับโครงการยูนิโอ สุขุมวิท 72 เฟส 2 นี้ ที่เฉลี่ยราคาขายที่ประมาณ 70,xxx บาทต่อตารางเมตร
(ราคาเดือนมีนาคม 2562) ราคาที่ถูกกว่า
สาเหตุหลักมาจากทำเลที่ต้องเข้าซอยเพิ่มอีกประมาณ 350
เมตร แต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นระยะทางที่เดินสบาย ประมาณ 4-5 นาที
.
ซึ่งหากใครต้องการคอนโดราคาที่เหมาะสม รวมไปถึงการซื้อทำเลในอนาคต จากแผนการพัฒนา
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) และรถไฟฟ้ารางคู่ขนาดเบา สายบางนา-สุวรรณภูมิ (อยู่ระหว่างการทำ EIA)
ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้การเดินทางเชื่อมต่อสมบูรณ์มากยิ่งขึ้นแล้วนั้น ราคาที่ได้กล่าวมาก็ไม่ได้สูงเกินไปจริงๆ
จากจุดเด่นที่ได้กล่าวมา กับราคาขายของโครงการที่โดนใจ และรูปแบบห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ โครงการมีกำหนดแล้วเสร็จประมาณเดือนสิงหาคม 2563 นี้ ซึ่งหากใครชอบคอนโดสไตล์รีสอร์ทก็สามารถติดต่อโครงการได้ทุกวัน สำนักขายขายอยู่ปากซอยสุขุมวิท 72 (ก่อนเข้าซอย) เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00-18.00 น.