คอนเซ็ปต์: คอนโด High Rise ราคาเบาๆ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง (สถานีแยกติวานนท์)
โดย บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด(ภายในเครือบมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์)
ยูนิโอ เอช ติวานนท์ ตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพ-นนทบุรี (ระหว่างซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 12-14) ย่านติวานนท์ ฝั่งขาเข้าเมือง สามารถเดินทางเชื่อมต่อ รถไฟฟ้าสายม่วง สถานีแยกติวานนท์ ประมาณ 100 เมตร และใกล้ทางพิเศษศรีรัช (วงแหวนรอบนอก)
เจ้าของโครงการ | บริษัท เฮลิกซ์ จำกัด |
---|---|
เนื้อที่โครงการ | 1-2-24.8 ไร่ |
รูปแบบอาคาร | 37 ชั้น จำนวน 1 อาคาร |
จำนวนหน่วย | รวม 378 หน่วย |
สิ่งอำนวยความสะดวก | สระว่ายน้ำ
ฟิตเนส ซาวน่า สวนหย่อม (ชั้น 1, 8 และดาดฟ้า) Jogging Track ห้องซักรีด |
ที่จอดรถ | 160 คัน (42% ไม่รวมซ้อนคัน) |
พิกัด | 13.839838, 100.515024 |
เบอร์โทรศัพท์ | 02-009-3093 |
เว็บไซต์ | ยูนิโอ เอช ติวานนท์ |
ตั้งอยู่ติดถนนกรุงเทพ-นนทบุรี การเดินทางสามารถเชื่อมต่อเส้นถนนสำคัญๆ ได้หลายเส้น อาทิ ถนนรัชดาภิเษก ถนนวงศ์สว่าง ถนนนครอินทร์ รวมไปถึงถนนติวานนท์ได้
ที่ตั้งโครงการสามารถเดินทางโดยเท้าใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 นาที (ประมาณ 100 เมตร) เพื่อเชื่อมต่อ
รถไฟฟ้าสายสีม่วง (MRT) สถานีแยกติวานนท์ ได้
.
ซึ่งจาก
สถานีแยกติวานนท์
สามารถเชื่อมต่อกับ เส้นรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน
เพียง 3 สถานี
ผ่านสถานีเตาปูน ซึ่งเป็นสถานีเปลี่ยนขบวน
(Interchange Station) ที่ขยายเส้นทางเดินขบวนมาจากสถานีบางซื่อ
ในส่วนโครงข่ายรถไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและอยู่ในแผนก็เป็นที่น่าจับตามอง ซึ่งโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างคือ
รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน
และ
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ช่วงเตาปูน-ท่าพระ)
.
รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน
พัฒนาเพิ่มเติมมาจากเส้น BTS สถานีบางซื่อ โดยจะมีจุดเชื่อมต่อกับเส้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีบางซ่อน
คาดการณ์ว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี 2565 โดยจากสถานีแยกติวานนท์เพียง 2 สถานี
.
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ช่วงเตาปูน-ท่าพระ)
เป็นเส้นส่วนต่อขยายเพิ่มเติม ที่พัฒนาข้ามไปยังพื้นที่ฝั่งธนบุรี คาดการณ์ว่าจะเปิดให้ใช้บริการปี 2563 นี้
ถึงแม้ว่าสถานีแยกติวานนท์จะไม่ใช่สถานีเปลี่ยนขบวน (Interchange Station)
แต่หากพิจารณาการเดินทางเพียง 2-3 สถานี เพื่อเชื่อมต่อสู่รถไฟฟ้าเส้นอื่นๆ ได้ ก็นับได้ว่าเป็น
ทำเลที่มีทางเลือกในการเดินทางที่หลากหลายทีเดียว
.
สำหรับผู้ที่ขับรถ โครงการอยู่ใกล้
แนวทางด่วนศรีรัช (วงแหวนรอบนอก)
ซึ่งจะมีเส้นทางลัดจากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 12 ขับไปเรื่อยๆ ถึงซอยดวงมณี ก็จะมีเส้นทางเพื่อไปเข้าทางด่วนด่านงามวงศ์วาน รวมถึงสามารถลัดเลาะไปออกถนนงามวงศ์วานได้
ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบโครงการ (ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร) จะพบแหล่งช็อปปิ้งใกล้กับโครงการมากมาย ได้แก่
บิ๊กซี ติวานนท์, บิ๊กซี วงศ์สว่าง, โลตัส รัตนาธิเบศร์ และเอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ งามวงศ์วาน-แคราย
.
ในส่วนของเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ที่เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในพื้นที่ อาจจะเกินรัศมี 3 กิโลเมตร จากรอบโครงการ
แต่การเดินทางไปสามารถใช้รถสองแถวขึ้นจากซอยกรุงเทพ-นนทบุรี 12 (ศิริชัย) ไปถึงห้างได้ ซึ่งนับว่าสะดวกสบายมาก
.
นอกจากแหล่งช็อปปิ้งแล้ว บริเวณรอบโครงการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกหลากหลายประเภท คือ โรงพยาบาล
(โรงพยาบาลเกษมราษฎร์อยู่ใกล้ที่สุด) รวมไปถึงสถานศึกษาทั้งระดับอุดมศึกษา (ม.พระจอมเกล้าฯพระนครเหนือ) และระดับมัธยมศึกษาชื่อดังอย่าง โรงเรียนโยธินบูรณะ รวมไปถึงสถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น ศูนย์ราชการนนทบุรี และกระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งนับว่าพื้นที่นี้เป็นทั้งพื้นที่แหล่งงาน และพักอาศัย ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและกลุ่มคนวัยทำงานย่านตัวเมืองนนทบุรีได้อย่างดี
ลักษณะแปลงที่ดินโครงการ มีลักษณะคล้ายรูปทรง 5 เหลี่ยม บริเวณทางเข้าโครงการนอกจากเส้นทางสัญจรเข้า-ออก ที่เป็นทางเดินรถ ยังมีความกว้างเพียงพอที่สามารถวาง แนวทางเดินเท้าพร้อมสวนหย่อม
ลักษณะการวางตำแหน่งของห้องพักอาศัย ทำได้ดีจำนวนห้องสูงสุด มีเพียง 14 หน่วยต่อชั้น ซึ่งถือว่าน้อยสำหรับคอนโดราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 7x,xxx บาท (ราคา ณ เดือนมีนาคม 2562)
.
การจัดวางผังอาคารออกแบบได้ดี พิจารณาจากการวางตำแหน่งลิฟต์ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของอาคาร (Core) เป็นตำแหน่งที่ใกล้กับทุกๆห้อง และทำให้
ตำแหน่งของลิฟต์ไม่ติดกับห้องใดๆ
ภายในโครงการคอนโดแบบ High rise สูง 37 ชั้น จัด
สิ่งอำนวยความสะดวกหลักของโครงการอยู่ชั้นที่ชั้น 8-9ได้แก่ สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องซาวน่าแยกชายหญิง รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ชั้นดาดฟ้า
ได้แก่ สวนหย่อม จุดชมวิว รวมไปถึง Jogging Track ของโครงการ
.
ด้านที่จอดรถสามารถจอดรถได้ที่ชั้น 1 บริเวณโดยรอบโครงการ และชั้น 2-7 ซึ่งที่จอดรถ 160 คัน คิดเป็นประมาณ 42% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัว รวม จำนวนลิฟต์ทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งหากคำนวณจำนวนห้องต่อชั้นสูงสุดที่ 14 ห้องต่อชั้น
จำนวนลิฟต์โดยสารเฉลี่ยต่อชั้นจะตกอยู่ที่ประมาณ 5 ห้อง ต่อลิฟต์ 1 ตัว
.
จากหน่วยขายที่ 378 หน่วย นับได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกและจำนวนที่จอดรถ ที่จัดเตรียมไว้ให้นั้นเพียงพอต่อการอยู่จริง
รูปแบบห้องของโครงการมี 14 แบบห้อง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ตามฟังก์ชั่นการใช้งาน คือ สตูดิโอ, 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอน พลัส โดยมีรายละเอียดดังนี้
แบบห้องขายดี
ของทางโครงการ การออกแบบฟังก์ชั่นของห้องแบบสตูดิโอมีเพียงรูปแบบเดียว ต่างกันตรงตำแหน่ง และการสลับด้านฝั่งซ้ายขวา (Mirror Room)
.
ฟังก์ชั่นห้องแบบสตูดิโอเมื่อเปิดประตูมาจะเป็นพื้นที่ชั้นวางรองเท้าและพื้นที่วางเครื่องซักผ้า (ห้องแบบ A1 และ A1M ตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าจะเปลี่ยนเป็นอยู่ที่ระเบียงแทน)
ถัดมาจะเป็นครัวแบบเปิด (Pantry) และมุมรับประทานอาหาร พื้นที่ต่อเนื่องกัน จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น และระเบียง
.
ส่วนที่เป็นพื้นที่วางเตียงนอนจะอยู่ลำดับในสุดของห้อง พร้อมห้องน้ำที่เข้าได้จากฝั่งพื้นที่วางเตียงนอนได้ทางเดียว โดยโครงการยูนิโอ เอช ติวานนท์นี้
ไม่มีการกั้นห้องแยกพื้นที่ห้องนั่งเล่นและพื้นที่ แต่หากการใช้อยู่จริงเมื่อกั้นห้องแล้วสามารถสร้างความเป็นส่วนตัวในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างดี
.
การออกแบบฟังก์ชั่นห้องสามารถเทควิวภายนอกอาคารได้ทั้งพื้นที่ห้องนั่งเล่น และภายในพื้นที่บริเวณเตียงนอน ซึ่งห้องรูปแบบนี้เหมาะกับการอยู่ 1 -2 คน
เจาะกลุ่มที่ต้องการเนื้อที่ใช้สอยมากกว่าการกั้นพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน แต่อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงก็สามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยกั้นห้องภายหลังได้อย่างไม่ยากเย็น
เนื่องจากทางโครงการได้ออกแบบห้องรองรับไว้แล้ว
แบบห้องขายดี
แบบห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ Type B2-M ของทางโครงการ ออกแบบมารองรับกับผู้ที่ชอบการออกแบบพื้นที่ให้เป็นสัดเป็นส่วนมากกว่าห้องแบบสตูดิโอ เนื่องจากมีการกั้นห้องแยกพื้นที่ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอน
.
ฟังก์ชั่นห้องรูปแบบนี้เมื่อเปิดประตูมาในห้องจะเป็นมุมครัวเปิด (Pantry) และห้องน้ำก่อนลำดับแรก ถัดมาจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นและทางเข้าไปสู่ห้องนอน ซึ่งถัดจากพื้นที่นั่งเล่นจะเป็นระเบียงชมทิวทัศน์ภายนอกอาคาร
.
ในส่วนพื้นที่ห้องนอนจะมีห้องน้ำ ซึ่งตัวห้องน้ำของห้องรูปแบบนี้จะมีห้องเดียว แต่
มีประตู 2 ฝั่ง
ที่สามารถเข้าจากห้องนอน รวมไปถึงประตูอีกด้านที่บริเวณส่วนด้านหน้าห้อง (บริเวณครัว) ซึ่งรูปแบบ
ประตูบานเลื่อน ทำให้การใช้งานพื้นที่ค่อนข้างยืดหยุ่น
เช่น หากมีแขกมาเยี่ยม สามารถเปิดประตูบานเลื่อนให้แขกเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่ผ่านพื้นที่ห้องนอนเลยได้ ในส่วนการใช้งานปกติก็สามารถล็อคประตูบานเลื่อนให้เข้าทางห้องนอนเพียงอย่างเดียวได้ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
ห้องรูปแบบ 1 ห้องนอนของโครงการ จะมีการออกแบบโต๊ะทานข้าวแบบซ่อนใต้เคาน์เตอร์ครัว ช่วยทำให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้อย่างดี
แบบห้อง C-M ฟังก์ชั่นการใช้งานจะคล้ายกับห้องแบบ B2-M ที่เป็นแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แต่เนื่องจากขนาดพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น อีกทั้ง การจัดวางตัวห้องแบบหน้ากว้าง ทำให้ได้ความกว้างระเบียงเพิ่มขึ้น สามรถเทควิวจากห้องนั่งเล่นอีกทั้งภายในห้องดูไม่อึดอัดจนเกินไป
ฟังก์ชั่นห้องรูปแบบนี้เมื่อเปิดประตูมาในห้องจะเป็นจุดวางชั้นวางรองเท้า ซึ่งถัดมาจะเป็นครัวเปิด (Pantry) ที่เชื่อมต่อบริเวณพื้นที่นั่งเล่น ส่วนที่อยู่ลึกสุดจะเป็นห้องนอน
.
ในส่วนพื้นที่ห้องนอนจะมีห้องน้ำ ซึ่งเป็นรูปแบบ
การจัดวางตัวห้องแบบหน้ากว้าง
เช่นเดียวกับแบบ B2M ที่สามารถเข้าจากห้องนอน และประตูห้องน้ำที่เข้าจากห้องนั่งเล่นได้
ทำให้การใช้งานพื้นที่ค่อนข้างยืดหยุ่น
เช่น หากมีแขกมาเยี่ยม สามารถเปิดประตูฝั่งห้องนั่งเล่นให้แขกเข้าห้องน้ำได้ โดยที่ไม่ผ่านพื้นที่ห้องนอน
.
การใช้งานปกติก็สามารถล็อคประตูบานเลื่อนให้เข้าทางห้องนอนเพียงอย่างเดียวได้ เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยห้องรูปแบบนี้เหมาะแก่ผู้พักอาศัยแบบ 1-2 คน ที่ต้องการมีพื้นที่ที่เป็นสัดเป็นส่วนมากยิ่งขึ้น
ขนาดห้อง 43.8 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และได้
เพิ่มพื้นที่อเนกประสงค์ (พสัส)
ซึ่งสามารถกั้นห้องทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องนอนเล็กได้ (ทางโครงการไม่ได้กั้นห้องไว้ให้) โดยมีขนาดหน้ากว้างประมาณ 3.8 เมตร
.
ห้องรูปแบบ D เพิ่มพื้นที่อเนกประสงค์ขึ้นมา
ทั้งโครงการจะมีห้อง Type D นี้รวม 8 หน่วย ประจำอยู่ชั้น 8-9 (ชั้นส่วนกลาง) และชั้นที่ 36
.
ฟังก์ชั่นภายในห้อง เมื่อเข้าประตูจะเป็นจุดวางชั้นวางรองเท้า ถัดมาจะเป็นครัวเปิด (Pantry) พื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น
ตามลำดับ โดยส่วนที่เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ (พสัส) จะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น ส่วนห้องนอนจะอยู่ลำดับในสุดของห้องรูปแบบนี้
.
ห้องน้ำจะเป็นประตูเข้าได้ 2 ฝั่ง
เช่นเดียวกับรูปแบบ 1 ห้องนอน ที่สามารถเข้าจากห้องนอน และประตูห้องน้ำที่เข้าจากพื้นที่นั่งเล่นได้
หลายท่านอาจได้คุ้นเคยกับแบรนด์ยูนิโอ เช่น ยูนิโอ สุขุมวิท 72 ยูนิโอ รามคำแหง-เสรีไทย แต่อย่างไรก็ตามชื่อโครงการ
ยูนิโอ เอช
อาจจะฟังดูแตกต่างจากแบรนด์ยูนิโอที่อื่น และสงสัยที่มาของ
“เอช”
.
“เอช” ที่ซ่อนอยู่ภายในโครงการมาจากโถงทางเดินภายในอาคารที่มีลักษณะรูปตัวอักษร H
ซึ่งจากที่ได้กล่าวไปช่วงต้นแล้วว่า ผังรูปแบบนี้มีการออกแบบทำให้ ตำแหน่งของลิฟต์ไม่ติดกับห้องใดๆ นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นที่สำคัญในการอยู่อาศัยคือ ห้องบางส่วนจะได้ รูปแบบห้องที่เป็น Single Corridor หรือโถงทางเดินฝั่งเดียว หรืออธิบายได้ว่า เมื่ออยู่อาศัยจริงเปิดประตูมา ก็จะไม่พบกับประตูห้องตรงข้ามนั่นเอง ช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยได้อย่างดี ซึ่งห้องที่มีลักษณะคล้าย Single Corridor นี้ จะเป็นห้อง Type B หรือห้องแบบ 1 ห้องนอนของโครงการ
จากโครงการแบบ High Rise ที่มีความสูงอาคารถึง 37 ชั้น แต่มีจำนวนหน่วยขายรวมที่ 378 หน่วยนั้น
หรือมีจำนวนห้องพักต่อชั้นสูงสุดที่ 14 ห้องนั้น นับได้ว่าน้อยสำหรับคอนโดราคาเฉลี่ยตารางเมตรละ 7x,xxx บาท (ราคา ณ เดือนมีนาคม 2562) ทำให้การอยู่อาศัยจริงไม่วุ่นวาย
.
รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ นอกจากคุณภาพที่โครงการได้เตรียมไว้ให้ อาทิ สระว่ายน้ำขนาด 6.5 x 18.8 เมตร สระน้ำอุ่น
ห้องซาวน่า Jogging Track ชั้นดาดฟ้า ที่กระจายอยู่ในแต่ละชั้น ได้แก่ ชั้น 1, 8, 9, 36 และบริเวณดาดฟ้านั้น
ทำให้กระจายการใช้งานของผู้พักอาศัยในอาคาร เรียกได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ
คุ้มทั้งคุณภาพและปริมาณ เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยขายทั้งหมดของโครงการ
ทำเลที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงสถานีต้นๆ
รายล้อมด้วยแหล่งงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการพักอาศัย ซึ่งหากใครต้องการคอนโดราคาที่เหมาะสม รวมไปถึงการซื้อทำเลในอนาคต จากแผนการพัฒนา
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ช่วงเตาปูน-ท่าพระ)
และ
รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน
ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเปิดให้ใช้บริการในปี 2563 และ 2565 ตามลำดับ ซึ่งเมื่อโครงการรถไฟฟ้าก่อสร้างแล้วเสร็จจะทำให้การเดินทางเชื่อมต่อสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
.
จากจุดเด่นที่ได้กล่าวมา เมื่อพิจารณาราคาขายของโครงการที่
เริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
กับรูปแบบห้อง Fully Fitted ที่แถมครัว แอร์ และสุขภัณฑ์มาให้
.
พร้อมเข้าอยู่
(เริ่มเข้าอยู่ช่วงเดือนเมษายน 2562) ซึ่งหากใครสนใจก็สามารถติดต่อโครงการได้ทุกวัน (สำนักงานขายอยู่ชั้น 1 ของโครงการ) เปิดบริการทุกวัน เวลา 9.00-18.00 น.
หรือสามารถสอบถามข้อมูลได้ทาง Line: Helix หรือ เบอร์โทร 02-032-222224 ชั่วโมง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง