ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกฯอาคารชุดหรือคอนโด คนที่13 กล่าวว่า ธุรกิจคอนโดถือว่าเป็นเสาหลักของอสังหาฯ ปัจจุบันตลาดคอนโดเมื่อเทียบกับ10 ที่ผ่านมาเปลี่ยนแปลงไปมหาศาล วันนี้หลังจากอสังหาฯผ่านวิกฤติโควิด -19 มาแล้ว คอนโดถือเป็นสินค้าเดียวที่ชาวต่างชาติสามารถซื้อได้อย่างถูกกฏหมาย ได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่ขายของห้องชุดทั้งหมดในอาคารชุดนั้นๆ
ช่วงที่ผ่านมา อสังหาฯในประเทศไทย มีวิวัฒนการในการขายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมที่ขายเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของคนไทย แต่ช่วงหลังโควิด ที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ประเทศไทยเปลี่ยนไป แล้ว โดยเฉพาะ คอนโดกลายเป็น "โกลบอล พร็อพเพอร์ตี้" คอนโดในประเทศไทยกลายเป็น ทรัพย์สินหรือที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 ของคน(ต่างชาติ)ทั่วโลก เป็นทรัพย์สินที่ทั่วโลกอยากจะมาลงทุนในประเทศไทย
4 เหตุผล อสังหาฯไทยเป็นที่สนใจของคนต่างชาติ
1. การมีเสถียรภาพของค่าเงินบาท เทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ เช่น เมียนมาร์ เขมร ลาว
2. ระบบสาธารณสุขที่ดีและความพร้อมของโรงพยาบาลเอกชน
3. ระบบการศึกษาโรงเรียนนานาชาติในประเทศที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
4. ความเป็นมิตรของคนไทย
5. ไม่มีภัยพิบัติที่รุนแรงเหมือนในต่างประเทศ รวมถึงภัยจากสงคราม เป็นประเทศที่สงบ
ในฐานะนายกสมาคมอาคารชุดไทย มีแนวความคิดใช้การพัฒนาภาคอสังหาริมทรัพย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย2.9เท่า คิดเป็นสัดส่วน 8-12% ของจีดีพี มีอัตราการจ้างแรงงานในประเทศกว่า ล้านอัตรา และใช้วัตถุดิบในประเทศมากกว่า 90%
เพราะจากความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้อสังหาฯชาวต่างชาติในประเทศไทยมีสัดส่วน 10-15% ของตลาดอสังหาฯ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลใช้ธุรกิจอสังหาฯ ทั้งคอนโดและบ้านจัดสรร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าธรรมเนียม จดจำนองการโอน ตั้งแต่3-7 ล้านบาทในปัจจุบัน
ในบทบาทของนายกสมาคมอาคารชุดไทย ที่ขับเคลื่อนใน2ปี(2567-2568)ต่อจากนี้ จะทำให้ภาคอสังหาฯก้าวไปสู่อนาคต ด้วยการปรับโครงสร้างอสังหาฯเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในระยะยาว เช่น การส่งเสริมให้มีโครงการอสังหาฯขนาดใหญ่ในรูปแบบมิกซ์ยูส หรือโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่เพื่อเป็นแม่เหล็ก(Magnet) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เหมือนกับประเทศสิงคโปร์
ฉะนั้นบทบาทของนายกสมาคมอาคารชุดไทยในยุคนี้ จึงต้องมีนโยบายระยะสั้นและระยะยาวออกมา
นโยบายระยะสั้น
1.ผลักดัน โดยการเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนแนวทางการยกเลิกมาตรการ LTV ของแบงก์ชาติเป็นการชั่วคราว อันเป็นผลจากโครงสร้างความต้องการอสังหาฯไทย
1.1 เพื่อสร้างและเพิ่มโอกาสการมีบ้านของตนเองของประชาชนระดับกลางและล่าง
1.2 เพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาฯเป็นวงกว้าง
1.3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาฯ
2. ผลักดันและปรับปรุงเกณฑ์การถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดของชาวต่างชาติจาก49%เป็น 69%
2.1 เพิ่มค่าธรรมเนียมการโอนสำหรับต่างชาติส่วนที่เกิดจาก49%ในอัตราที่กำหนด
2.2 เพื่อนำไปจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยของผู้ที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง
2.3 จำกัดสิทธิ์ส่วนเพิ่มเกินกว่า 49% ที่ชาวต่างชาติถือครอง ไม่ใช้สิทธิในการออกเสียงในนิติบุคคลอาคารชุดเพื่อไม่ให้ต่างชาติมีอำนาจควบคุม
3.สนับสนุนและแก้ไขปรับปรุงกฎระเบียบและกฎหมายที่ล้าสมัยและเป็นอุปสรรคเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอสังหาฯและคอนโด โดยลดผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
นโยบายระยะยาว
1. เสนอการวางโครงสร้างการถือครองอสังหาฯของชาวต่างชาติและสิทธิหน้าที่ความรับผิดชอบทางภาษีและค่าธรรมเนียมให้อยู่ในระบบและถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งจัดตั้งกองทุนส่งเสริมการมีที่อยู่ของประชาชนระดับกลางล่าง จากการจัดเก็บภาษีจากต่างชาติที่ถือครองอสังหาฯไทย
2. การใช้การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ของประเทศในการสร้างศักยภาพในการแข่งขัน สร้างความน่าสนใจ แรงดึงดูดทางเศรษฐกิจระยะยาว ในรูปแบบOne Stop Service เหมือนโครงการ Eastern Seaboard ในอดีตหรือโครงการ The Eastern Economic Corridor (EEC)ในปัจจุบัน
3. วางโครงสร้างสมาคมอาคารชุดไทย และสร้างโครงข่ายผู้ประกอบการ เพื่ออนาคต ความยั่งยืน และความแข็งแกร่งของสมาคมระยะยาว รองรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของธุรกิจอสังหาฯ โดยคณะกรรมการของคนรุ่นใหม่ และร่วมมือจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย