ธปท. แนะ 3 ขั้นตอน คิดก่อน "รีไฟแนนซ์บ้าน" ความคุ้มค่าที่ต้องคำนวณ หากประหยัดเงินได้เล็กน้อย แต่แบกค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่ม ขณะ การขอประนอมหนี้ อาจเป็นอีกทางออก เมื่อผู้กู้เจอวิกฤติการเงิน
5 มีนาคม 2566 - เพราะภาระผ่อนดอกเบี้ยมันหนัก "การรีไฟแนนซ์" จึงเป็นทางเลือกที่คนมีบ้านมักจะใช้ โดยมองหาธนาคารใหม่ที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า
แต่ทั้งนี้ สิ่งที่ห้ามลืม คือ ควรคำนวณก่อนด้วยว่า การย้ายธนาคารมีความคุ้มค่าหรือไม่ เพราะหากคำนวณแล้วประหยัดดอกเบี้ยได้เพียงเล็กน้อย แต่ต้องเสียเวลาในการจัดการเอกสาร เดินเรื่องต่าง ๆ อีกมากมายก็อาจไม่คุ้มที่จะรีไฟแนนซ์ แต่อาจลองใช้วิธีเจรจาเจ้าหนี้เดิมเพื่อขอลดดอกเบี้ยแทนได้เช่นกัน
3 ขั้นตอนคำนวณก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน
โดย ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้เทคคิด และ ข้อแนะนำ การคิดรีไฟแนนซ์บ้าน ใน 3 ขั้นตอน ดังนี้
1.ประหยัดดอกเบี้ยได้เท่าไหร่ ?
โดยให้คำนวณ ด้วยวิธี นำ เงินต้น มาคูณ กับอัตราดอกเบี้ยที่ประหยัดได้ (อัตราดอกเบี้ยเดิม - อัตราดอกเบี้ยของธนาคารใหม่) และ คูณด้วยจำนวนปีอีกครั้ง
2.ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์มีอะไรบ้าง ?
- ค่าปรับกรณีไถ่ถอนสินเชื่อก่อนกำหนด
- ค่าประเมินหลักประกัน
- ค่าจดจำนองหลักประกัน
3.คุ้มค่าที่จะรีไฟแนนซ์หรือไม่
โดยเปรียบเทียบข้อ 1. และ ข้อ 2. เพื่อดูว่าคุ้มหรือไม่ที่จะรีไฟแนนซ์
ผ่อนบ้านไม่ไหว ทำอย่างไรได้อีก ?
ทั้งนี้ หากการรีไฟแนนซ์ ไม่มีความคุ้มค่าพอที่จะดำเนินการ ขณะ ผู้กู้บ้าน อยากขอเจรจาข้อตกลงเรื่องหนี้สินกับเจ้าหนี้ เช่น ลดหย่อน ผ่อนผัน และ/หรือปรับเปลี่ยนข้อตกลง ก็มีช่องทางทำได้เช่นกัน
ข้อมูลจากดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ระบุว่า การประนอมหนี้ เป็นการขอเจรจาข้อตกลงเรื่องหนี้สินกับเจ้าหนี้ เช่น ลดหย่อน ผ่อนผัน และ/หรือปรับเปลี่ยนข้อตกลง เพื่อช่วยชะลอหรือหยุดการดำเนินการจากเจ้าหนี้อันเนื่องมาจากการผิดนัดชำระหนี้ เช่น ฟ้องร้องและยึดทรัพย์สิน และช่วยลดภาระในการชำระหนี้โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ลูกหนี้กำลังตกอยู่ในสภาวะขาดสภาพคล่องทางการเงินและไม่สามารถกลับมาชำระได้ปกติ โดยมีรูปแบบการประนอมหนี้ที่แตกต่างกันไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ ดังนี้
- ขอลดอัตราดอกเบี้ย เหมาะกับผู้กู้ที่มีรายได้เป็นประจำทุกเดือน แต่มีเหตุให้รายได้ลดลงหรือเท่าเดิมแต่รายจ่ายสูงขึ้น และเมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นกว่าเมื่อแรกกู้ หรือในกรณีที่ธนาคารอาจให้ชำระเป็นเงินก้อนซึ่งสูงกว่าค่าผ่อนต่อเดือน หรือให้ชำระหนี้ทั้งหมดภายในครั้งเดียว ซึ่งการขอลดอัตราดอกเบี้ยนั้นผู้กู้ต้องมีประวัติการผ่อนชำระที่ดี และประเมินสถานะทางการเงินของตนแล้วพบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีรายได้สูงเพียงพอสำหรับกรณีที่ต้องชำระเงินก้อนตามเงื่อนไขใหม่ของธนาคาร
- ขอผ่อนชำระต่ำกว่าปกติ กรณีที่ผู้กู้มีรายได้เป็นประจำทุกเดือน แต่ขาดสภาพคล่องจากปัจจัยอื่น ๆ จะสามารถเลือกใช้วิธีนี้ได้เมื่อจำนวนยอดชำระต่อเดือนนั้นสูงกว่ายอดดอกเบี้ยต่อเดือนอย่างน้อย 500 บาท โดยระยะเวลาในการผ่อนชำระที่ต่ำกว่าปกตินั้นต้องไม่เกิน 2 ปี อย่างไรก็ดี ผู้กู้จะต้องมีประวัติการผ่อนชำระดี และไม่ลืมจัดการกับรายจ่ายที่เป็นอุปสรรคต่อการผ่อนบ้านในจำนวนเดิมให้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากการขอประนอมหนี้แบบนี้ทำได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
- ขอขยายเวลาชำระหนี้ วิธีนี้ช่วยให้ค่าผ่อนต่อเดือนลดลงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่น่าสนใจอีกวิธีหนึ่งสำหรับผู้กู้ที่มีรายได้ประจำลดลง อย่างไรก็ดี การขอขยายเวลากู้สามารถทำได้จนอายุผู้กู้ไม่เกิน 70 ปีเท่านั้น จึงเหมาะกับผู้กู้ที่อายุน้อยหรือมีเวลาอีกหลายปี และสัญญาเงินกู้ปัจจุบันจะต้องมีระยะเวลากู้ไม่ถึง 30 ปีด้วย
- ขอผ่อนผันการค้างชำระ เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้ไขปัญหาฉุกเฉินทางการเงินได้ดีไม่น้อย เนื่องจากช่วยให้ผู้กู้สามารถจัดการปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 36 เดือน หลังจากนั้นจึงค่อยชำระเงินที่ค้างไว้ตามรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง โดยประเมินจากสภาพคล่องทางการเงินและความเป็นไปได้ที่จะมีรายได้มั่นคงในอนาคต ได้แก่ การขอชำระเป็นเงินก้อนเล็กทุกเดือน การขอชำระเป็นเงินก้อนโดยแบ่งเป็นงวด ๆ หรือการขอชำระเงินคงค้างทั้งหมดภายในระยะเวลาหนึ่ง
- ขอโอนหลักทรัพย์เป็นของธนาคารชั่วคราวและจะซื้อคืน รูปแบบนี้จะคล้ายกับการขายฝากแล้วเช่าบ้านตัวเองอยู่ โดยค่าเช่าหลักทรัพย์คิดอยู่ที่ 0.4-0.6% ของมูลค่าหลักทรัพย์ และมักทำสัญญาเช่าเป็นรายปี โดยมีเงื่อนไขว่าหากจำนวนหนี้สูงกว่าราคาประเมินของหลักทรัพย์ ผู้กู้จำเป็นต้องชำระส่วนต่างภายในวันโอน วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้กู้ที่ขาดรายได้และไม่น่าจะกลับมามีรายได้ภายใน 1 ปี หรือมีรายได้ประจำไม่คงที่แต่มีรายจ่ายสูงต่อเนื่องนานเกิน 1 ปี อย่างไรก็ตาม ผู้กู้ต้องอย่าลืมว่าหากเลือกวิธีนี้แล้วต้องมีเงินมากพอที่จะชำระส่วนต่างระหว่างหนี้และราคาประเมินหลักทรัพย์ และมีกำลังเพียงพอที่จะจ่ายค่าเช่าต่อเดือนแก่ธนาคารได้ด้วย
ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย