สำหรับใครที่กำลังถูกใจบ้านมือสองสักหลัง แล้วอยากกู้ซื้อบ้าน? ขอสินเชื่อบ้านมือสอง ธนาคารไหนดี ถึงจะได้ดอกเบี้ยบ้านต่ำที่สุด ใครอยากรู้ Tooktee.com รวบรวมข้อมูลมาเปรียบเทียบให้แล้ว
อยากซื่อบ้านมือสอง โดยเฉพาะซื้อไว้เพื่ออยู่อาศัยเอง การซื้อบ้านโดยตรงจากคนขาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบ้านขายเอง หรือขายผ่านนายหน้า ถือว่าเป็นทางเลือกแรกๆ ที่ช่วยให้เราได้บ้านที่ถูกใจทั้งทำเล สภาพแวดล้อม แถมยังมีโอกาสได้บ้านไม่ทรุดโทรมมากนัก และสามารถต่อรองราคา ปัจจุบันการซื้อบ้านมือสองมีช่องทางในการค้นหาและติดต่อผู้ขายที่สะดวกมากขึ้น เมื่อราคาตกลงที่จะซื้อบ้านมือสองแล้ว ขั้นต่อไปก็ต้องมองหาสินเชื่อบ้านที่คิดดอกเบี้ยต่ำสักหน่อย จะได้ช่วยเติมฝันที่อยากมีบ้านให้เป็นจริงเร็วขึ้น เพราะยิ่งดอกเบี้ยถูกก็ยิ่งลดภาระให้เราผ่อนบ้านได้แบบสบาย ๆ แล้วช่วงนี้หลายธนาคารก็มีโปรโมชั่นสินเชื่อบ้านออกมาให้เลือกมากมายเลยด้วย สินเชื่อบ้านที่ไหนดี ไปดูกันเลยเราได้อัพเดท สินเชื่อบ้าน 2565 ไว้ให้แล้ว
ตารางอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านมือสอง ของธนาคารพาณิชย์
ธนาคาร | ดอกเบี้ยบ้านต่ำสุดเฉลี่ย 1-3 ปีแรก | อัตราดอกเบี้ย |
1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์
|
ดอกเบี้ยบ้าน |
สินเชื่อบ้านโครงการบ้าน ธอส เพื่อคุณ ปี 2565ยื่นคำขอกู้เงินและทำนิติกรรมตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2565
|
2.ธนาคารทหารไทยธนชาต (ttb) |
ดอกเบี้ยบ้าน เฉลี่ย 3 ปี 2.75 % |
สินเชื่อบ้านมือสอง ธนชาต
**อนุมัติง่ายและรวดเร็ว : ดูอัตรา MRR ปัจจุบันได้ ที่นี่ |
3.ธนาคารยูโอบี (UOB) |
ดอกเบี้ยบ้าน เฉลี่ย 3 ปี 3.35 % สมัครผลิตภัณฑ์เสริม |
|
4.ธนาคารกรุงศรี |
ดอกเบี้ยบ้าน เฉลี่ย 3 ปี 3.97 % |
สินเชื่อบ้านมือสอง กรุงศรีเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย ได้วงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมิน |
5.ธนาคารกสิกรไทย |
ดอกเบี้ยบ้าน เฉลี่ย 3 ปี 7.72% |
ดูอัตรา MRR ปัจจุบันได้ ที่นี่ |
ดอกเบี้ยเงินกู้แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate) โดยอัตราดอกเบี้ยจะถูกกำหนดไว้เป็นตัวเลขเฉพาะ ไม่มีการขยับขึ้นหรือลดลง ทุกอย่างจะคงที่ตลอดสัญญาอายุเงินกู้หรือในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไว
เช่น สมมติว่า ดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เราต้องผ่อนทั้งหมด 10 ปี เท่ากับว่า เราต้องผ่อนที่ 5% ตลอดระยะเวลา 10 ปี - อัตราเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate) ดอกเบี้ยเงินกู้ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามการลงทุนของสถาบันการเงินหรือผู้ให้กู้ ซึ่งผู้ให้กู้จะประกาศออกมาเป็นระยะซึ่ง MLR และ MRR ถูกจัดอยู่ในประเภทอัตราเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate) แบบที่ 2
- MLR ย่อมาจาก Minimum Loan Rate คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจาก “ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี” เช่น มีประวัติการเงินที่ดี มีหลักทรัพย์ค้ำประกันอย่างเพียงพอ ส่วนใหญ่ใช้กับ “เงินกู้ระยะยาวที่มีกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน”
- MRR ย่อมาจาก Minimum Retail Rate คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจาก “ลูกค้ารายย่อยชั้นดี”
ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง
การซื้อบ้านมือสอง ด้วยวิธีซื้อโดยตรงจากคนขายนั้น มีหลายๆ ประเด็นที่เราควรทราบก่อนการตัดสินใจซื้อ ซึ่งได้แก่
• การตรวจสอบโฉนด ว่ามีสถานะเป็นอย่างไร ปลอดภาระหรือติดจำนองอยู่ และที่สำคัญควรตรวจเช็กว่าผู้ขายเป็นเจ้าของจริงๆ หรือไม่ เพื่อป้องกันการถูกหลอก โดยก่อนจ่ายเงินมัดจำและทำสัญญาจะซื้อจะขาย ผู้ซื้อควรตรวจสอบโฉนดที่ผู้ขายนำมาให้ หากโฉนดเป็นสำเนาควรดูว่า ได้มีการรับรองจากเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินหรือไม่และระบุวันที่รับรองตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งนี้การคัดสำเนาโฉนดเจ้าของโฉนดซึ่งก็คือผู้ขายสามารถไปดำเนินการเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปแทนก็ได้ โฉนดที่ขอคัดจากสำนักงานที่ดินจะมีเจ้าหน้าที่ลงนามรับรองความถูกต้องพร้อมระบุวันที่รับรองไว้ในสำเนาโฉนดฉบับนั้น หรืออีกวิธีในการตรวจสอบโฉนดในกรณีที่ยื่นกู้ซื้อบ้านคือการส่งประเมินราคากับธนาคารก็ได้
เปิดรับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ รับคอมมิชชั่น 2-7 %
ร่วมรับฟัง "โอกาสทางธุรกิจตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ กับ เครื่อข่าย Tooktee"
และเข้าร่วมเป็นตัวแทนรูปแบบอิสระกับเราในงาน
รับจำกัด 50 ท่านเท่านั้น !!
วันพฤหัสบที่ 22 มิถุนายน 66
เวลา 13.00 - 16.00 น.
สถานที่อบรม : โรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ชั้น 8
คลิกลงทะเบียน : https://bit.ly/3nANsQr
สนใจเป็นสมัครเป็น agent กับเรา สอบถามผ่าน Line : @Tooktee >> https://line.me/R/ti/p/%40whn7789w
• การเตรียมเงินส่วนต่างให้พร้อม เพราะราคาบ้านมือสองอาจมีราคาสูงจากการตกแต่งบ้านให้พร้อมเข้าอยู่ หรือทำเลดี และเนื่องจากการกู้ซื้อบ้านมือสองโดยทั่วไปธนาคารจะให้วงเงินกู้ไม่เกิน 80% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย(เลือกที่ต่ำกว่า) เท่ากับว่าผู้ซื้อจะต้องเตรียมเงินก้อนไปจ่ายให้กับผู้ขายในวันโอนบ้านอยู่ที่ประมาณ 20% ของราคาซื้อขาย ซึ่งต่างจากการซื้อบ้านมือหนึ่งกับโครงการที่สามารถผ่อนดาวน์ไปได้เรื่อยๆ ก่อนการยื่นกู้จริง
• ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายทั้งฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ดังนี้
o ค่าใช้จ่ายการซื้อ ได้แก่?
- ค่าจำนอง 1% ของวงเงินกู้ (ในกรณีที่กู้เงิน)
o ค่าใช้จ่ายการขาย ได้แก่
- ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย โดยใช้ราคาบ้านจากราค?าประเมินของสำนักงานที่ดิน หักด้วยค่าใช้จ่ายตามที่กรมสรรพากรกำหนด แล้วนำมาคำนวณด้วยอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยไม่ยกเว้นเงินได้ 150,000 บาทแร?ก
- ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% ของราคาขายหรือราคาประเมินสำนักงานที่ดิน (เลือกราคาที่สูงกว่า) แต่ทั้งนี้หากถือครองบ้านเกิน 5 ปี(ดูวันที่หลังโฉนด) หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกิน 1 ปี หรือบ้านที่ขายได้รับมรดกมา ก็จะไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
- ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาขายหรือราคาประเมินสำนักงานที่ดิน (เลือกราคาที่สูงกว่า) โดยจะเสียค่าอากรแสตมป์ในกรณีที่ไม่ได้เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ??
***นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมโอน 2% ของราคาประเมินสำนักงานที่ดิน ซึ่งเกิดขึ้นจากการซื้อขาย โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้อยู่ที่ตกลงกันว่าจะจ่ายกันอย่างไร เช่น ผู้ซื้อผู้ขายแบ่งจ่ายคนละครึ่ง เป็นต้น
นอกจากนั้นสามารถสอบถามเพิ่มเติมผ่าน Line : https://line.me/R/ti/p/%40whn7789w
หรือ โทรศัพท์ : 0-2295-3905 ต่อ 125
อ้างอิง
https://www.thanachartbank.co.th
https://www.uob.co.th/personal
https://www.bankofchinahomeloan.com
https://www.tmbbank.com
https://www.krungsri.com
https://www.gsb.or.th
https://www.bangkokbank.com
https://www.ghbank.co.th
https://www.kasikornbank.com
ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย