ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาราคาทองคำในตลาดโลกดีดตัวขึ้น ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกอยู่ในทิศทางขาลง ตอกย้ำความผันผวนจากการที่เฟดระบุว่าการฟื้นตัวจะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าจะมีความเชื่อมั่นว่าไวรัสได้ถูกควบคุมแล้ว
ความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกในทิศทางขาลง การดีดตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา สะท้อนความไม่มั่นใจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่วันนี้ยังแผ่ปกคลุมไปทั่วโลก การแพร่ระบาดในบราซิลที่ล่าสุดพบการติดเชื้อใหม่เกือบ 3.5 หมื่นรายภายในวันเดียว เมื่อผนวกกับการปะทุรอบใหม่ในประเทศจีน กลายเป็นการเขย่าขวัญระลอกใหม่ ทำให้นักลงทุนกลับมาถือครองสินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำอีกครั้ง
ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเกือบ 10 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 16 ม.ย.63 ขณะที่สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์ (0.5%) ปิดที่ 1,736.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางข่าวดัชนีเศรษฐกิจสหรัฐที่ส่วนใหญ่ออกมาเป็นบวก แต่ เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกโรงเตือนว่ายังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกรอบเวลาของการฟื้นตัว จากความไม่แน่นอนถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาและสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
สอดคล้องกับมุมมองกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่กำลังจับตาสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด มีแนวโน้มสูงว่าในเดือน มิ.ย.นี้ ไอเอ็มเอฟจะปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ลงจากเดิมที่เคยประเมินติดลบ 3% เนื่องจากพบว่าโควิดจะส่งผลต่อการหดตัวลงของเศรษฐกิจทั่วโลก อาจรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือน เม.ย.63 ที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้สูงว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับวิกฤติการเงินครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ หรือเกรท ดีเปรสชัน เมื่อปี 1930
เราเห็นด้วยกับความเห็นของเฟดที่ระบุว่าการฟื้นตัวจะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าประชาชนจะมีความเชื่อมั่นว่าไวรัสดังกล่าวได้ถูกควบคุมแล้ว เห็นด้วยกับมุมมองไอเอ็มเอฟ ซึ่งเฝ้าระวังสถานการณ์การแก้ปัญหาโรคโควิดกับผลกระทบทางเศรษฐกิจมาตั้งแต่มีการแพร่ระบาด เกาะติดจนกระทั่งวันนี้มีความกังวลกรณีรัฐบาลท้องถิ่นกรุงปักกิ่งยกระดับมาตรการตอบสนองฉุกเฉินโรคโควิดจากระดับ 3 สู่ระดับ 2 นั่นคือกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มแบบฉับพลันอีกครั้ง
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจของแต่ละประเทศจะฟื้นหรือไม่ เป็นเรื่องเดียวกันทั้งโลก ไม่อาจแบ่งแยกพื้นที่ใด ไม่ใช่ประเทศหนึ่งจะฟื้นแล้วเศรษฐกิจภายในจะรอดพ้นวิกฤติที่ภูมิภาคอื่นกำลังเผชิญ เราเห็นว่าแผนจับคู่ประเทศท่องเที่ยว หรือทราเวล บับเบิล ไม่ง่ายอย่างที่คิด หากยังไม่ปลอดภัย การชะลอออกไป ดีกว่าเดินหน้าแล้วเจอปัญหาแพร่ระบาดกลับมา ไม่ต้องกลัวเสียหน้า หากชั่วโมงนี้ทราเวล บับเบิล จะเหลือเพียงจับคู่จำเป็น เช่น นักธุรกิจ ส่วนนักท่องเที่ยวค่อยว่ากันทีหลัง
ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว ติดตาม Tooktee (ทุกที่) ผ่านโซเชียลมีเดีย