แก้ปัญหาที่จอดรถคอนโด : ด้วยนวัตกรรมแห่งอนาคต

มนุษย์ รถ และที่จอดรถ คือ 3 ตัวแปรหลักในการหาที่จอดรถ ทุกวันนี้เรามีปัญหาที่จอดรถในคอนโดเพราะที่จอดรถภายในคอนโดไม่เพียงพอต่อรถที่เรามี ให้คุณผู้อ่านลองคิดตามตัวแปรที่เรากล่าวไปข้างต้น นั่นก็คือ มีมนุษย์ มีรถ แต่ไม่มีที่จอดรถ 

.

ลองนึกถึงอีกกรณี คุณมีรถยนต์ แต่ที่จอดรถของคอนโดที่คุณอยู่อาศัยอาจเต็ม แต่มีอาคารจอดรถอื่น ตึกอาคารสำนักงาน หรือแม้กระทั่งคอนโดอื่นที่ห่างจากคอนโดของคุณออกไปสัก 1-2 กิโล มีที่จอดรถยังว่างให้คุณจอด แต่ถ้าคุณต้องเดินทางไปยังที่จอดรถที่ห่างออกไป คุณจะเดินทางมาคอนโดของคุณเองอย่างไร ปัญหานี้อาจจะไม่สามารถจินตนาการวิธีแก้ไขได้ถ้าหากเป็นเมื่อ 10 กว่าปีก่อน

.

โชคดีที่คุณอยู่ในยุคแห่งอนาคต โลกพัฒนาจนถึงจุดที่คุณพอจะเห็นเค้าลางอนาคตว่าการหาที่จอดรถไม่จำเป็นต้องมีคนอยู่ในตัวแปร มีเพียงแค่รถและที่จอดรถก็เพียงพอให้แก้ไขปัญหานี้ได้ วันนี้เราจะมาพูดถึงนวัตกรรมการจอดรถในอนาคต นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนวิธีการจอดรถของเราไปอย่างสิ้นเชิง ขอเริ่มต้นที่นวัตกรรมหลักที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ก่อน นั่นก็คือ

1.รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองอัจฉริยะ(self-driving-car)

บริษัทยักษ์ใหญ่มากมายกำลังแข่งขันกันเพื่อพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัตินี้ให้ทำงานอย่างมีเสถียรภาพ และปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งอีกไม่นานเราอาจได้เห็นรถยนต์ขับไปมาบนถนนโดยไม่มีใครนั่งอยู่หลังพวงมาลัยอีกต่อไป

 

 

แม้ว่าแนวคิดเรื่องรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจะเริ่มมีขึ้นและเริ่มพัฒนาให้เห็นเป็นตัวเป็นตนตั้งแต่ยุค 1980 แต่ทุกอย่างยังไม่มีเสถียรภาพพอ จนกระทั่งทุกอย่างก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเมื่อกูเกิล (google) ประกาศโปรเจ็กต์ใหม่ในชื่อว่า “เวย์โม” (Waymo){https://waymo.com/} พัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว(2009) ตามด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นอย่าง Audi, GM, Tesla, Mercedes Benz, Ford ,Volvo และบริษัทยานยนต์ชั้นนำอีกมากมาย

.

ในปี 2011 รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกาประกาศกฎหมายให้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติสามารถทดลองใช้บนถนนจริงๆได้แต่ต้องรายงานผลทุกเดือน ทำให้กูเกิลในชื่อ “เวย์โม” ทดลองขับเคลื่อนไปทั่วรัฐ ระยะทางกว่า 300,000 ไมล์ (หรือประมาณ 480,000 กิโลเมตร)ในปีแรก ล่าสุดเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา “เวย์โม” เดินทางไปกว่า 1,271,587 ไมล์ (หรือประมาณ 2,046,421 กิโลเมตร)ภายในหนึ่งปี ตามมาด้วยรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองของบริษัทอื่นอย่าง GM Cruise (สหรัฐอเมริกา) , Zoox (สหรัฐอเมริกา), Nuro (สหรัฐอเมริกา), Pony (จีน), Nissan (ญี่ปุ่น) และ Baidu (จีน) ตามลำดับ

 

 

ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ถูกขับเคลื่อนมาถึงจุดที่มีเสถียรภาพมากพอให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้แล้ว เพียงแต่กฎหมายของแต่ละประเทศยังไม่ออกมารองรับการใช้งาน แต่ว่าอีกไม่นานแต่ละประเทศก็คงจะหยุดยั้งเทคโนโลยีนี้ให้ออกมาบนท้องถนนไม่ไหว

.

.
 

 

เพื่อให้รองรับรถยนต์ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองไปหาที่จอดรถได้ เราจำเป็นต้องพึ่งนวัตกรรมที่ 2

.

2.นวัตกรรมค้นหาที่จอดรถอัจฉริยะ

หากเราจะให้รถยนต์ของเราขับเคลื่อนไปหาที่จอดได้ด้วยตัวของมันเอง เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ตรงไหนบ้างที่มีที่จอดอยู่ในขณะนั้น และจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเมื่อรถยนต์ของเราเดินทางไปถึง รถยนต์คันอื่นจะไม่เข้าไปจอดในที่ตรงนั้นเสียก่อน

.

ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านที่จอดรถพัฒนามาถึงจุดที่มีการจองที่จอดรถผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือได้ มีอุปกรณ์สแกนจุดจอดรถว่าว่างหรือไม่  แล้วนำไปเก็บเป็นข้อมูล นำไปอัพเดตตลอดเวลาบนคราวด์ให้ผู้คนที่กำลังหาที่จอดรถสามารถค้นหาที่จอดรถและรู้สถานะที่จอดรถได้ตามเวลาจริง (Real-time) นวัตกรรมเหล่านี้ เราเคยพูดถึงไปแล้วในบทความที่ชื่อว่า แก้ปัญหาที่จอดรถคอนโด ด้วย 8 อันดับ นวัตกรรมค้นหาที่จอดรถฝีมือคนไทย {https://tooktee.com/content/detail/75/แก้ปัญหาที่จอดรถคอนโด-ด้วย-8-อันดับ-นวัตกรรมค้นหาที่จอดรถฝีมือคนไทย}

แต่ครั้งนี้เราจะมาพูดถึง ผลงานนวัตกรรมแอปพลิเคชันค้นหาที่จอดรถระดับโลกกัน ขอเริ่มที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

 

ParkWhiz(สหรัฐ) - https://www.parkwhiz.com/

 

 

แม้สหรัฐอเมริกาจะมีบริษัทผู้พัฒนาแอปพลิเคชันค้นหาที่จอดรถอยู่จำนวนมาก อย่างเช่น ParkingPanda, SpotHero, Parker, BestParking, Ticketzen, Gtechna แต่จากยอดการรีวิว APP บน Google Play ที่มีคะแนนสูง 4.5 คะแนน จากผู้รีวิว 7,839 คน ซึ่งสูงกว่าบริษัทอื่นๆ เราจึงให้ ParkWhiz เป็นตัวแทนแอปพลิเคชันค้นหาที่จอดรถของสหรัฐอเมริกา

.

แม้ทุกแอปค้นหาที่จอดรถในสหรัฐอเมริกาจะทำงานใกล้เคียงกันหมดคือ ค้นหาที่จอดรถ จองที่จอดรถ และจ่ายเงินค่าที่จอดรถผ่านมือถือของตนเองได้โดยไม่จำเป็นที่เราต้องนั่งไปกับรถด้วย ในเวลาที่รถของเราเข้าไปในอาคารจอดรถ แต่สิ่งที่ ParkWhiz แตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่นก็คือการ ParkWhiz รับประกันราคาที่จอดรถว่า ราคาจะถูกกว่าถึง 60 % หากจองบนแอปของ ParkWhiz

.

และที่ ParkWhiz ประสบความสำเร็จก็ย่อมเป็นเพราะว่าเจ้าของอาคารจอดรถ หรือเจ้าของที่จอดรถส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่า หากที่จอดรถของตัวเองได้เข้าสู่ระบบจัดการที่จอดรถดีๆอย่าง ParkWhiz ที่จอดรถของเขาจะเต็มตลอดเวลา และกำไรที่ได้จะยิ่งดีกว่าการเก็บเงินค่าจอดรถราคาเต็มโดยไม่พึ่ง แอปพลิเคชัน เหล่านี้

.

หากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในแคลิฟอเนีย ลองเข้าไปโหลด ParkWhiz มาใช้งานและมาแชร์ประสบการณ์กับ Tooktee กัน 

 

Parking.sg(Singapore) - https://www.parking.sg/

 

เช่นกัน แม้สิงคโปร์จะมีบริษัทแอปพลิเคชันที่จอดรถมากมาย เช่น SGCarmart, Waze, MyTranSport singapore, Mibile@HDB แต่ Parking.sg ซึ่งเปิดตัวเมื่อตุลาคมที่ผ่านมากลับสร้างความประทับใจได้มากกว่าแอปอื่น ด้วยคะแนนรีวิว ถึง 4.1 คะแนนจากผู้ รีวิว 752 คน 

.

ด้วยเหตุผลประกาณหนึ่งที่อาจฟังดูแปลกประหลาดซักหน่อย กล่าวคือ Parking.sg เป็นแอปที่พัฒนาโดยรัฐบาลสิงคโปร์เพื่อแก้ปัญหาที่จอดรถในประเทศด้วยตัวรัฐบาลเอง แต่เพราะเป็นประเทศอย่างสิงคโปร์ ของของรัฐบาลกลับมีประสิทธิภาพกว่าของเอกชน ตัวแอป Parking.sg ทำงานได้ถึงขั้นคิดค่าจอดรถเป็นนาที แม้จะจองที่จอดรถไว้ 2ชั่วโมง แต่จอดไม่ถึง 2 ชั่วโมงก็แยกคิดเป็นนาทีให้ได้ ไม่มีการใช้กฎจอดนานเกิน 15 นาที นับเป็นหนึ่งชั่วโมง

.

ETCP(China) - http://etcp.cn/

 

 

ประเทศจีนเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนวัตกรรมของโลก และเป็นแหล่งให้กำเนิด StratUp มากมาย แต่ Tooktee จะขอเน้นไปที่ App ที่ดีที่สุดสำหรับใช้ในเมืองที่มีปัญหารถติดที่สุดอย่าง “กรุงปักกิ่ง”

.

ตามข้อมูลของ China Daily {http://www.chinadaily.com.cn/a/201801/26/WS5a6abd3da3106e7dcc136d75.html} และ CGTN ในกรุงปักกิ่ง มีบริษัทแอปพลิเคชันยักใหญ่อยู่สองบริษัทคือ  Uchewei(UParking) และ ETCP แต่ที่ tooktee นำเสนอ ETCP เป็นตัวแทนประเทศจีนเพราะ นอกจากตัวบริษัทจะทำแอปพลิเคชันค้นหาที่จอดรถแล้ว ตัว ETCP ยังเป็นผู้นำในนวัตกรรมบริหารที่จอดรถซึ่งใช้งานอยู่ทั่วกรุงปักกิ่งด้วย ETCP จึงมีข้อมูลไว้ในมือจำนวนมากกว่า แอปอื่นๆ

.

เช่นเคยหากใครมีโอกาสไปเที่ยวปักกิ่ง อย่าลืมทดลองใช้ ETCP parking และมาแชร์กับ tooktee กัน

 

Parkmobile Parking(ยุโรป) - https://www.easyparkgroup.com/

 

 

เนื่องจากยุโรปเป็นต้นตำหรับแห่งนวัตกรรมยานยนต์ เป็นแหล่งกำเนิดบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์หลายๆบริษัท แต่กลับเป็นทวีปที่มีประเทศเล็กๆเบียดเสียดกันอยู่จำนวนมาก ทั้งประชากรเกือบทั้งหมดก็มีคุณภาพพอจะหาซื้อรถยนต์เป็นของตัวเองได้ จึงทำให้ต้องพบกับปัญหารถติดเป็นอันดับต้นๆของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน “กรุงลอนดอน” ประเทศอังกฤษ มีการพัฒนาแอปพลิเคชันมากมายอย่างเช่น AppyParking (อังกฤษ), JustPark (อังกฤษ), RingGo (อังกฤษ), Easypark (เนเธอร์แลนด์), PayByPhone (สวิตเซอร์แลนด์) แต่ที่โดดเด่นกว่าใครคือ Parkmobile Parking App ด้วยคะแนนรีวิว 4 คะแนน จากผู้รีวิว 25,157 คน ที่ก่อตั้งขึ้นที่ประเทศอังกฤษแต่ล่าสุดเมื่อปี 2014 ตัวบริษัท Parkmobile Parking ได้ถูกบริษัท BMW ซื้อไปและเริ่มต้นติดตั้งแอปพลิเคชั่น Parkmobile ไว้ในรถยนต์ของ BMW เอง โดยรถยนต์ของ BMW แต่ละคันสามารถหาที่จอดรถได้เองไม่ต้องพึ่งมือถือ และล่าสุดได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี BMW Valet Self-Parking เป็นเทคโนโลยีรถขับเคลื่อนด้วยตัวเองสามารถจะหาที่จอดรถได้เองในอนาคต  https://parkmobile.io/newsroom/parkmobile-bmw-means/

Parkopedia(อังกฤษ) - https://www.parkopedia.com/

 

 

แม้ว่าจะไม่สามารถจองที่จอดรถออนไลน์ได้บน Parkopedia แต่ข้อมูลที่มีมหาศาลของแอปนี้ TookTee จำเป็นต้องนำมาพูดถึง

.

ในกรุงลอนดอนเมืองที่รถติดที่สุดในอังกฤษ มีเว็บไซต์เล็กๆที่เริ่มทำงานโดยคนไม่กี่คน พยายามนำแนวคิดของ wikipedia ว่าใครอยากรู้เรื่องอะไรสามารถเข้ามาค้นหาได้ที่ wikipedia แต่ Parkopedia ใครอยากรู้ว่าที่จอดรถตรงไหนว่าง ให้เข้ามาค้นหาที่ Parkopedia

.

มีหลายแอปพลิเคชันค้นหาที่จอดรถในอังกฤษรวมถึงในยุโรป แต่ไม่มีแอปไหนหรือเว็บไซต์ไหนโดดเด่นไปกว่าสารานุกรมของที่จอดรถฉบับนี้ Pakopedia รวบรวมข้อมูลที่จอดรถไม่เฉพาะในกรุงลอนดอน หรือเฉพาะในประเทศอังกฤษ Parkopedia มีข้อมูลที่จอดรถทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ออสเตรเรีย แคนนาดา ทุกประเทศในทวีปยุโรป และประเทศอื่นๆ รวม 75 ประเทศ ทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทยด้วย

 

 

เมื่อเราหาที่จอดรถและจองที่จอดรถได้แล้ว จะทำอย่างไรให้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของเราเข้าไปในตึกจอดรถหรือผ่านไม้กั้นรักษาความปลอดภัยได้เอง

.

นวัตกรรมต่อมาที่เราจำเป็นต้องใช้ คือ

.

3.นวัตกรรมตรวจจับทะเบียนรถอัจฉริยะ

เทคโนโลยีนี้เรียกโดยทั่วไปว่า ANPR(Automatic number plate recognition) เป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ตำรวจใช้ในกล้องวงจรปิดตามสี่แยกไฟแดง หรือกล้องตรวจจับความเร็วของตำรวจจราจร

 

.

เทคโนโลยีประเภทนี้ถูกพัฒนาด้วยบริษัทยักใหญ่ทั่วโลก KASPCH TrafficCom(ออสเตรีย), Conduent, Inc.(สหรัฐ), Q-Free ASA(สหรัฐอเมริกา), Siemen AG(เยอรมัน), ANH Inc(ฮังการี) Quercus Technolofy(เดนมาร์ก), Parkeon(อังกฤษ), Dahua(จีน)

.

< iframe width="624" height="351" src=" https://www.youtube.com/watch?v=vxKODZCLs6E

 

" frameborder="0" allow="accelerometer; autoplay; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture" allowfullscreen></iframe>

.

ANPR คือเทคโนโลยีที่จะพารถที่ไม่มีคนขับของเราเข้าไปในที่จอดรถได้โดยไม่ต้องพึ่งการแตะบัตร  รับบัตร หรือต้องใช้มนุษย์อย่างเราไปทำอะไรบางอย่างตอนที่กำลังเข้าที่จอดรถ

.

หากคุณสามารถปล่อยให้รถยนต์ของคุณเข้าไปจอดรถในที่จอดรถคอนโดของคุณได้เอง โดยไม่ต้องวนหาที่จอดรถอีกต่อไป  ไม่ต้องเข้าคิวเพื่อรับบัตรจอดรถ ไม่ต้องขับวนขึ้นไปชั้นที่ 7 หรือชั้นที่ 8 เพื่อไปจอดรถ

และที่สำคัญไม่ต้องเบียดตัวออกมาจากประตูเพราะรถจอดติดกันมากเกินไป จะเกิดอะไรขึ้น

.

สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คือ

.

4.ที่จอดรถคอนโดมิเนียมอัจฉริยะ

เมื่อรถของเราสามารถขับเคลื่อนไปหาที่จอดรถในที่จอดรถคอนโดได้ด้วยเอง หน้าตาของที่จอดรถก็คงจะต้องเปลี่ยนแปลงไป สิ่งแรกที่ต้องเปลี่ยนคือช่องจอดรถยนต์ ด้วยรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองส่วนใหญ่มักจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ประเภทนี้จะเดินทางได้ในระยะทางที่ไม่ไกล

.

ทำให้ต้องชาร์ตไฟบ่อยๆ ช่องจอดรถในอนาคตจะไม่ได้เป็นเพียงที่เอาไว้สำหรับจอดรถเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ช่องจอดรถในอนาคตทุกช่องจะเป็นเหมือนปั๊มไฟฟ้าขนาดเล็กที่คอยชาร์ตไฟฟ้าให้รถยนต์ เพื่อให้รถยนต์เหล่านั้นพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

 

เรื่องต่อมาที่ต้องเปลี่ยนแปลงคือ

ที่จอดรถตามปกติจะเว้นที่ว่างเอาไว้ระหว่างรถยนต์แต่ละคันเพื่อให้คนขับสามารถออกจากตัวรถยนต์ได้ แต่ถ้ารถขับเคลื่อนไปจอดได้เอง พื้นที่ส่วนนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเว้นเอาไว้อีกต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือสถาปัตยกรรมอาคารจอดรถที่ลดพื้นที่ที่จำเป็นต้องเว้นเหล่านั้นลง เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้จอดรถยนต์ได้มากขึ้น

 

.

 

.

(ภาพจากเว็บไซต์ https://spectrum.ieee.org/cars-that-think/transportation/self-driving/autonomous-parking)

.

พฤติกรรมการวนหาที่ว่างจอดรถในที่จอดรถคอนโดก็ย่อมต้องหมดไป รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของเรารู้อยู่ก่อนแล้วว่าตรงไหนเป็นที่ว่างที่เราได้จองเอาไว้ หรือที่ว่างตรงไหนเป็นที่จอดส่วนตัวของเรา ระบบการไหลเวียนของรถในที่จอดรถคอนโดก็ย่อมต้องเปลี่ยนไปอีกเช่นกัน

.

ปัจจุบันยังไม่มีสถาปัตยกรรมอาคารจอดรถที่ออกแบบมาเพื่อรองรับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเองเป็นการเฉพาะ แต่นวัตกรรมตึกจอดรถอัจฉริยะก็ไม่ได้หยุดนิ่ง

 

 

อาคารจอดรถของบริษัท โฟล์คสวาเกน ในเมือง วูฟบิร์ก ประเทศเยอรมัน ชื่ออาคารว่า "Car Tower" ตั้งอยู่ใน “AutoStadt” หรือภาษาอังกฤษคือ “Auto State” เมืองนวัตกรรมยานยนต์ของบริษัท โฟล์คสวาเกนโดยโฟล์คสวาเกนเองสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2000 เป็นอาคารคู่แฝด 20 ชั้นสูงประมาณ 60  เมตร จอดรถได้สูงสุดถึง 400 คันต่ออาคาร ใช้ระบบจัดการที่จอดรถโดยเครื่องยกขึ้นไปยังที่จอด เป็นการออกแบบเพื่อตัดพื้นที่ที่ใช้ในการวนหาที่จอดออกไป สร้างพื้นที่ให้สามารถนำรถมาจอดได้มากขึ้น

.

ในอนาคตอาคารจอดรถจะถูกเปลี่ยนแปลงไปมาก คอนโดมิเนียมในอนาคตก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองตามเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ภาพการวนหาที่จอดรถของเราจะหมดไป สิ่งที่จะเป็นคือที่จอดรถที่ใช้พื้นที่เพียงน้อยนิดแต่รองรับจำนวนรถได้มาก เมื่อเรากลับจากที่ทำงานสิ่งที่เราต้องทำก็เพียงแค่ลงจากรถในจุดที่ใกล้ทางขึ้นที่สุด หลังจากนั้นก็ลืมวิธีการจอดรถไปเลย เพราะเราจะไม่ "จอดรถ" กันอีก  แต่เราจะนิยามคำใหม่ขึ้นมาเพื่อใช้สื่อว่า “รถยนต์ของเราไปจอดด้วยตัวของมันเอง”

ลองจินตนาการถึงโลกในอนาคตอันใกล้ที่คุณเองมีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (นวัตกรรมข้อ 1) และอาศัยอยู่ในคอนโดที่รองรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของคุณ(นวัตกรรมข้อ 4) เช้ามาคุณก็เดินทางไปทำงาน คุณสั่งงานด้วยมือถือให้รถยนต์ของคุณออกจากที่จอดรถมารอคุณในเวลา 7.30 น. และเมื่อรถยนต์มารับ คุณก็ขึ้นรถไปยังที่ทำงาน เมื่อเดินทางมาถึงรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของคุณก็จะส่งคุณที่หน้าทางเข้าและเดินทางไปยังที่จอดรถของตัวเอง โดยคุณไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะหาที่จอดได้หรือไม่ หรือกังวลว่าคุณจะวิ่งมาเข้าประชุมทันหรือเปล่า

.

ที่จอดรถที่กล่าวถึงนี้อาจเป็นที่จอดรถของอาคารสำนักงานที่คุณทำงานอยู่ หรืออาจจะวนกลับไปจอดในคอนโดมีเนียมที่คุณอยู่อาศัยก็ได้ แต่สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตมากที่สุดก็คือ ในอนาคต คอนโดมิเนียมแต่ละแห่งทั่วกรุงเทพฯ จะเปิดให้รถยนต์อัตโนมัติเข้ามาหมุนเวียนจอดในคอนโดได้ในเวลากลางวัน ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่ากว่าครึ่งของที่จอดรถในคอนโดจะว่างในช่วงเวลาทำงาน เพราะผู้อยู่อาศัยเดินทางออกไปทำงานกันหมด

 

ถึงแม้ปัจจุบันจะมีความกังวลเรื่องการจอดเกินเวลา หรือการสร้างปัญหาของรถจากภายนอกคอนโด แต่เมื่อนำนวัตกรรมการจัดการและค้นหาที่จอดรถ (นวัตกรรมที่ 2) มาใช้ กำหนดช่วงเวลาเข้าออกให้มีระสิทธิภาพ ความกังวลนั้นก็จะหมดไป

.

ตรงกันข้าม ในเวลากลางคืนหรือเวลาเลิกงาน ปัญหาจะมาตกอยู่ที่จำนวนที่จอดรถภายในคอนโดมีจำนวนไม่เพียงพอ ซึ่งตรงกันข้ามเวลากลางคืนอาคารสำนักงานจะมีที่จอดรถว่างอยู่เยอะ ในอนาคตหากอาคารสำนักงานหรืออาคารอื่นพัฒนาจนรองรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติอย่างเช่นที่จอดรถภายในคอนโดที่กล่าวมา ปัญหาที่จอดรถก็จะหมดไปอย่างสิ้นเชิง

เว็บไซต์อ้างอิง :